ทาง Freeman Rider ได้มีโอกาสมาร่วมทดสอบ
กับรถสปอรต์พันธ์ุแข่งรหัส RR (Racing Replica)
ที่ยัดเทคโนโลยีจากสนามแข่งลงไปในรถ
ที่สามารถขับขี่บนท้องถนนได้ นั่นคือ CBR250RR
ที่พึ่งเปิดตัวในงาน Motor Showที่ผ่านมา
ด้วยกระแสฮือฮามากมาย
จากยอดจองภายในงาน จำนวน 169 คัน
ทำให้ทาง A.P.HONDA จัดกิจกรรม The Premier Experience
สำหรับกลุ่มลูกค้ากลุ่มแรกที่จองรถ ได้มาทดสอบ
สมรรถนะ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิจ
แบบ Exculcive กันสุดๆ
เมื่อวันที่ 22-24 เม.ย. 2562 นี้
ก่อนอื่นเรามาดูเสปคและรูปลักษณ์ของ
เจ้า CBR250RR กันก่อน
New Honda CBR250RR สายตรงความแรง
รหัส RR (Racing Replica)
ภายใต้คอนเซปต์ Beating Master
“สปอร์ตพันธุ์แข่ง แรงระดับมาสเตอร์”
ถ่ายทอดทุกอณู DNA เทคโนโลยีรถแข่งแชมป์โลก
MotoGP เทียบชั้น Racing Machine ตัวเต็ม
จากสนามแข่งในคลาส 250 CC.
ขนาดตัวรถนั้นมีความยาวอยู่ที่ 2,060 มม.
กว้าง 724 มม. สูง 1,098 มม.
ความสูงของเบาะ 790 มม. ระยะฐานล้อ 1,389 มม.
ระบบไฟเป็น LED รอบคันที่ดีไซน์มาได้อย่างมี
เอกลักษณ์ ดูสปอร์ตลงตัวมากๆ
เอกลักษณ์ ดูสปอร์ตลงตัวมากๆ
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นแบบอัพไซด์ดาวน์
ขนาดแกน 37 มม. จาก Showa ระบบเบรกด้านหน้า
เป็นดิสก์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ Nissin แบบ Axial Mount
ขนาดแกน 37 มม. จาก Showa ระบบเบรกด้านหน้า
เป็นดิสก์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ Nissin แบบ Axial Mount
เครื่องยนต์ 250 cc. ขนาดกระทัดรัด ประสิทธิภาพสูง 2 สูบเรียง
DOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ
มาพร้อมสวิงอาร์มอลูมิเนียม ปลายท่อไอเสียแบบคู่
โช้คหลัง Pro-Link ปรับ Preload ได้ 5 ระดับ
เรือนไมล์ Full LCD Multifuction Meter
มาพร้อมฟังก์ชั่นแบบจัดเต็ม
พร้อม Mode ขับขี่ ให้เลือกใช้ 3 Mode
Comfort - เหมาะกับการขับขี่ในเมือง
หรือขณะถนนเปียก
Sport - เหมาะกับการขับขี่ทั่วไป
Sport+ - โหมดที่ต้องการสมถรรนะสูง
ชุดสวิทช์ด้านซ้าย มี่ปุ่ม Lap Time
และปุ่ม Mode เพิ่มเข้ามา
ชุดสวิทช์ด้านขวา ปุ่ม Run-Off พร้อม
THROTTLE-BY-WIRE เทคโนโลยีคันเร่งไฟฟ้า
ความจุถังน้ำมันจะอยู่ที่ 14.5 ลิตร
ซึ่งถือว่าให้มาแบบเหลือเฟือ
ชุดแฟริ่งดีไซน์มาได้อารมณ์สปอร์ต
พร้อมช่อง Air Duct ที่แฟริ่งข้าง
ช่วยเสริมการระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพ
สติกเกอร์ Made in Japan นำเข้า CBU ทั้งคัน
เล่าสเปคกันไปพอประมาณ ก็มาถึงประสบการณ์
ในสนามกันบ้าง ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก
ที่ได้ลงสนามใหญ่ระดับโลกขนาดนี้
ถึงส่วนตัว จะเคยขับรถมาหลายรุ่น
แต่เอาจริงๆ แอดมินไม่ใช่คนขับรถเร็ว
ไม่ได้ขี่เก่งกาจขนาดนักแข่ง
อาจทำให้รีดเค้นสมถรรนะรถได้ไม่เต็มที่
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยฮะ
ซึ่งก่อนลงสนามเราก็จะมาวิเคราะห์ให้ว่า
แต่ละโค้งควรใช้เกียร์ไหน ไลน์ยังไง
เท่าที่สรุปมาได้อยู่ที่ราวๆนี้
โดยแต่ละโค้งจะมีแจ้งระยะ
250m / 200m / 150m / 100m / 50m
ให้เราคิดให้ดีว่าควรแตะเบรคช่วงไหน ก่อนจะถึงโค้ง
โดยกิจกรรมจะแบ่งให้ขับ 3 กลุ่มๆละ 3 รอบ
เช้า-บ่าย และ Free Run ในตอนเย็น
รอบเช้าด้วยความประหม่า เลือกขับช้าๆ
เพื่อความคุ้นชินกับสนามก่อน
ถึงวันนี้แดดไม่แรง แต่ภายใต้ Race Suit นี่
เหงื่อท่วมตัวนะฮะ
หลังทำความคุ้นเคยกับสนามได้สักระยะ
เริ่มลองรีดสมรรถนะเครื่องยนต์กันหน่อย
อัตราเร่งในช่วงต้น อาจยังไม่จัดจ้านเท่าไหร่นัก
ถ้าเทียบกับรถในพิกัดสูงกว่า (300-400cc)
ที่มีแรงบิดมากกว่า แต่เมื่อขี่ในรอบสูงขึ้นไป
เครื่องยนต์เริ่มเค้นพละกำลังได้มากขึ้น
บิดได้มันส์มือ เรียกได้ว่าขับขี่สนุกมากๆฮะ
บาลานซ์รถ ฃกับการเข้าโค้ง ถือว่าทำได้
อย่างยอดเยี่ยม ควบคุมง่าย เข้าโค้งติดหนึบ
ไม่มีอาการส่าย แม้เชนจ์เกียร์หนักๆ
ยึดเกาะถนนได้แบบมั่นใจจริงๆ
ในช่วงทา่งตรงยาวของสนาม ถือเป็นจุดที่ได้ลอง
Top Speed เค้นสมรรถนะเครื่องยนต์อย่างเต็มที่
เท่าที่สอบถามระดับโปรขี่กันได้อยู่ที่ 180 km/hr
ซึ่งถือว่าสุดมากๆ สำหรับรถในคลาส 250 cc.
ในส่วนของการซับแรงกระแทก เนื่องจากรอบนี้
เรามาทดสอบกันในสนาม จึงอาจยังไม่ได้ทดลอง
ในส่วนนี้อย่างเต็มที่ เหมือนขับขี่บนถนนจริง
แต่ก็มีลองแอบเบนรถขึ้นขอบดูนิดๆ
เรียกว่า แทบไม่รู้สึกอะไร
ระบบเบรค จังหวะการทำงานได้เหมาะสม
ในช่วงความเร็วสูง เบรคหนักๆ ยังไม่มีอาการส่าย
ถือว่าโดยรวมทำได้อย่างประทับใจ
สรุปแล้ว สำหรับรถ CBR250RR ถือว่าเป็น
รถ Super Sport ที่เทียบชั้นได้กับรุ่นพี่ตระกูล RR
เพียงแต่ถูกย่อขนาดลงมาให้อยู่ในคลาส 250 cc. เท่านั้น
และก็ยังคงการขับขี่ที่สนุกและบิดได้มันส์ติดมือ
สำหรับ CBR250RR ราคาอยู่ที่ 2.49 แสน
มีให้เลือก 2 สี คือ แดง และ ดำด้าน
ใครสนใจก็จับจองกันได้นะฮะ
ขอขอบคุณ A.P.Honda ที่เชิญเพจเล็กๆได้ร่วมการทดสอบ
ขอบคุณทีมงาน OverRide สำหรับภาพสวยๆด้วยครับ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น