รีวิวน้ำมันเครื่อง Challenger Synthetic 4T 10W-40 API SN


พูดถึงเรื่อง น้ำมันเครื่อง
หลายๆคนอาจไม่ได้ใส่ใจ
คิดแค่ว่าเปลี่ยนถ่ายตามระยะ
ก็น่าจะเพียงพอ

แต่ในความจริงนั้น
น้ำมันเครื่องถือเป็นปัจจัยสำคัญ
ที่ช่วยในการดูแลรักษารถสุดรัก
ให้อยู่กับเราไปนานๆ

ซึ่งน้ำมันเครื่องเดิมๆที่ติดรถมานั้น
บางครั้งก็ไม่ถือว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอ
เปรียบเสมือนอาหาร ที่เรากินเข้าไป
กินแบบไหน ยังไงก็อิ่มเหมือนกัน

แต่หากเราเลือกกินอาหารดีๆ
มีสารอาหารครบถ้วนเพียงพอ
มันก็ช่วยเสริมโภชนาการให้กับร่างกาย
กับรถที่เราใช้ ก็เช่นกัน


แรกๆก็เป็นคนนึงที่คิดเช่นนั้น
แต่หลังจากปีก่อนประสบเหตุการณ์ซ่อมหนัก
กับรถคู่ใจที่ใช้มานาน
มีอาการความร้อนขึ้นสูง
จนเครื่องดับกลางอากาศกันดื้อๆซะงั้น
แวะร้านช่างข้างทางก็หาสาเหตุไม่ได้
จนสุดท้าย ต้องเรียกรถยกมายกกลับ

หาสาเหตุอยู่นาน ไปมาก็หลายอู่
สุดท้ายก็ทราบอาการคือ
"ชาร์ปละลาย"


ปัญหานี้หลักๆเกิดจากน้ำมันเครื่องแห้ง/ขาด
ทำให้เกิดการขาดการหล่อลื่น
ระบายความร้อนไม่ทัน จนเกิดความร้อนขึ้นสูง
เป็นเหตุให้เครื่องโอเวอร์ฮีทไปในที่สุด
หมดค่าซ่อมไปหลายหมื่นอยู่

แต่เราก็เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ตามระยะมาตลอด
ทำไมมันถึงเกิดอาการนี้ได้ล่ะ?

อาจจะน้ำมันเครื่องเสื่อมคุณภาพ
อาจจะน้ำมันเครื่องปลอม
อาจจะน้ำมันเครื่องไม่ตรงรุ่น
อาจจะใส่อะไรลงไปแทนก็ไม่ทราบ
หลากหลายเหตุผลที่เป็นไปได้

เพราะ เวลาไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
เราไม่ได้ตามช่างไปดูตอนถ่ายทุกครั้ง
บางครั้งยังไม่รู้เลยว่า
ใช้น้ำมันเครื่องยี่ห้อไหนใส่ให้รถเรา

จุดนี้จึงเป็นเหตุ ทำให้เริ่มหันมามอง
เกรดน้ำมันเครื่องมากขึ้น
แล้วควรเลือกน้ำมันเครื่องแบบไหนกันล่ะ?


อย่างแรก เรามาดูวิธีอ่านรหัสกันก่อน
ว่าตัวเลขรหัสที่เขาใช้ๆกัน มันคืออะไรบ้าง?

ยกตัวอย่างรหัสน้ำมันเครื่องที่ใช้ในครั้งนี้
Challenger Synthetic 4T 
SAE 10W-40, API SN, Jaso Ma2


SAE คือ Society of Automotive Engineering
 สมาคมวิศวกรยานยนต์
เป็นสมาคมที่ทำหน้าที่ค้นคว้าวิจัย
และวางกฎเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ
เกี่ยวกับรถยนต์ของสหรัฐอเมริกา
กล่าวคือ ได้รับการรับรองมาตรฐาน
จากสถาบันนี้นั่นเอง  


10 คือ ความข้นความใสของน้ำมัน
โดยอิงจากตัวอักษรตามหลังคือ
W คือ Winter ที่แปลว่า หน้าหนาว
โดยตัวเลขข้างหน้ายิ่งต่ำ
ก็จะยิ่งใช้กับสภาพอากาศหนาวๆได้ดี
เช่น 10W สามารถใช้งานในที่อุณหภูมิติดลบ
ต่ำกว่า -10 C ได้
ยิ่งสูงก็จะไว้ใช้สำหรับอากาศร้อนๆอย่างบ้านเรา

40 คือ ค่าของความหนืดของน้ำมันเครื่อง
ยิ่งหนืดยิ่งเพิ่มการป้องกันการสึกหรอ
ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ที่อุณหภูมิสูงดีขึ้น

ซึ่งการวัดเกรดความหนืดจะแบ่งเป็น
การวัดที่ 2 อุณหภูมิที่แตกต่างกัน

ดังนั้น การเลือกน้ำมันเครื่องในประเทศไทย
จึงเน้นการดูที่ตัวเลขชุดหลังเป็นหลัก
 เพราะประเทศไทย ไม่มีอุณหภูมิติดลบ
 ตัวเลขความหนืดชุดหน้า
จึงมีความสำคัญต่ำกว่าชุดหลัง



API คือ American Petroleum Institute
หน่วยงานทดสอบคุณภาพน้ำมันเครื่อง
ทั้งเรื่องการหล่อลื่น การระบายความร้อน
การชะล้างทำความสะอาด ฯลฯ
 โดยแบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ API S และ API C

S - Service Station Classifications
สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน
C - Commercial Service-Compression Ignition
สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

โดยอักษรตัวสุดท้ายจะเริ่มต้นตาม
ภาษาอังกฤษ คือ A B C ... ไล่ไปเรื่อยๆ
ยิ่งไกลจากตัว A เท่าไรแสดงว่า
เป็นเกรดคุณภาพสูงขึ้น
เช่น API  SA SB SC SD SE SF SG
SH SJ SL SM SN
 ปัจจุบัน SN คือ มาตราฐานสูงสุดนั่นเอง

JASO คือ
Japanese Automobile Standards Organization
เพราะมอเตอร์ไซค์มีทั้งระบบคลัตช์แห้ง
และคลัตช์เปียก

องค์กรมาตรฐานยานยนต์ญี่ปุ่น
จึงตั้งมาตรฐานน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์
ไว้จัดหมวดหมู่น้ำมันเครื่อง
โดยใช้ค่าแรงเสียดทานเป็นตัวกำหนด
ค่าแรงเสียดทานของน้ำมันเครื่อง
มีผลมากต่อเครื่องยนต์ที่เป็นระบบคลัตช์เปียก
หรือเครื่องยนต์ที่ระบบคลัตช์
อยู่ห้องเดียวกับเครื่องยนต์
ทำให้น้ำมันเครื่องต้องไปหล่อลื่น
ระบบคลัตช์ด้วย

เครื่องคลัตช์เปียกจะต้องใช้น้ำมันที่ได้มาตรฐาน
JASO MA / JASO MA1 / JASO MA2 เท่านั้น
จะใช้ JASO MB ไม่ได้
ส่วนเครื่องยนต์คลัตช์แห้ง  หรือรถสกูตเตอร์
ใช้ได้ทั้งน้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน
JASO MB และ JASO MA

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การจะเลือกใช้
น้ำมันเครื่องแบบไหน
ควรศึกษาตามคู่มือรถที่ระบุไว้ครับ



ซึ่งคุณสมบัติของ
Challenger Synthetic 4T 10W-40
จาก PTT Lubricants
มีอะไรบ้าง?

- เป็นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100%
สำหรับรถจักรยนต์ 4 จังหวะ
มีสารเพิ่มคุณภาพคัดสรรพิเศษ

- สูตร TRIPLE ACTION FORMULA
ที่ช่วยช่วยตอบสนองอัตราเร่ง ได้อย่างดีเยี่ยม
ปกป้องเกียร์ คลัตซ์ และเครื่องยนต์
แม้วิ่งทางไกลหรือใช้งานหนักเป็นเวลานาน
ควบคุมความเสียดทานระบบคลัตช์
ที่เหมาะสม ป้องกันคลัตช์ลื่น เข้าเกียร์ได้นุ่มนวล

- เทคโนโลยี High Film Strength (HFS) 
ให้ฟิล์มน้ำมันที่แข็งแรง ทนทาน
ปกป้องเครื่องยนต์ที่รอบจัด ความร้อนสูง
พร้อมสารเพิ่มคุณภาพที่ให้เครื่องยนต์สะอาด
ช่วยรักษาความสะอาดของลูกสูบและแหวน
ป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกในห้องเครื่อง

ก็ดูจะตอบโจทย์การใช้งาน
เพราะใช้ได้ดีตั้งแต่จักรยานยนต์ทั่วไป
ไปจนถึง Street Bike, Sport Bike ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน
หรือออกทริปก็ได้ อีกทั้งหาซื้อได้ง่าย
ราคาไม่แพง ว่าแล้วก็ลองเปลี่ยนกันเลยดีกว่า




นายแบบของเราในวันนี้ CFmoto 250NK
เป็นรถ Sport Naked รุ่นนึงที่มีโอกาสนำมาใช้บ่อยๆ
ทั้งขับทางไกลและในตัวเมือง

รุ่นนี้ใช้น้ำมัน 1.2 ลิตร ในการเปลี่ยนแบบ
ไม่เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง


เปิดเทกันให้เห็นจะๆ ว่า
สีน้ำมันเครื่องใสๆ แบบนี้

หลังจากทำการเปลี่ยนถ่ายเรียบร้อย
ก็ออกมาลุยขับในเมืองกัน

จุดเด่นหลักๆจากการใช้งาน
ที่สัมผัสได้เลย คือ เข้าเกียร์ได้ง่ายขึ้น
เกียร์ไม่แข็ง จังหวะการต่อเกียร์
มีความลื่นไหลดี เดินเบานิ่งขึ้น

ซึ่งก่อนเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตัวนี้
มักจะมีปัญหา คือ
เวลาจอดหาเกียร์ N ไม่ค่อยเจอ
แต่พอเปลี่ยนถ่ายแล้ว
ก็เข้าเกียร์ได้ง่ายขึ้น
ต่อเกียร์ได้แม่นยำมากขึ้น

ช่วงจังหวะออกตัว 
ทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมแบบรู้สึกได้
เร่งแล้วรู้สึกลื่นดี ไม่มีอาการกระตุก
หรือ คลัตช์ลื่นแต่อย่างใด
การใช้งานคลัชท์ มีระยะจับตัวกันได้ดี
มีความนุ่มนวลมากกว่าก่อน

ความร้อนยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
(250NK รุ่นนี้มีแสดงอุณหภูมิให้ด้วย)
ยังไม่ขึ้นเกิน 100c
แม้ขับในช่วงรถติด อากาศร้อนๆระอุ
แบบเมืองไทย
ก็ไม่มีปัญหา ถือว่าผ่าน!

อัตราเร่งในช่วงต้น ตอบสนองได้ดีขึ้นกว่าเดิม
เร่งแซงได้ไวขึ้น อาการสั่นลดน้อยลง
เสียงเครื่องก็เบาลงกว่าเดิมนะ

จุดเด่นหลักๆของ
Challenger Synthetic 4T 10W-40
จาก PTT Lubricants

High Film Strength (HFS) Technology
เนื่องจากน้ำมันหล่อลื่นยุคใหม่นั้น
มุ่งเน้นการลดความหนืดและความเสียดทาน
เพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มอัตราเร่ง
ในขณะเดียวกัน จะต้องไม่สูญเสีย
ประสิทธิภาพด้านปกป้อง
โดยเฉพาะในประเทศไทยและภูมิภาคเขตร้อนด้วย
มีความเสี่ยงสูงที่ฟิล์มน้ำมันจะบางเกินไป
และเกิดการพร่องน้ำมันได้
จึงเป็นการผสมผสานน้ำมันหล่อลื่น
พื้นฐานสังเคราะห์และสารสังเคราะห์พิเศษ
เพิ่มความแข็งแรงของฟิล์มน้ำมัน
เพื่อการปกป้องที่เหนือกว่าในชื่อสูตร HFS Technology

 TRIPLE ACTION FORMULA
ปกป้องเกียร์ คลัตซ์และเครื่องยนต์ได้ดีเยี่ยม
แม้วิ่งทางไกลหรือใช้งานหนักเป็นเวลานาน
ควบคุมความเสียดทานระบบคลัตช์
ที่เหมาะสม ป้องกันคลัตช์ลื่น เข้าเกียร์ง่าย

ว่ากันตามคุณสมบัติของ
Challenger Synthetic 4T 10W-40 
จาก PTT Lubricants
มันคือน้ำมันเครื่องสังเคราะห์
ที่มีส่วนผสมของ
เบสออยล์ กรุ๊ป 3 ประมาณ 65%
ผสมกับเบสออยล์ กรุ๊ป 4
ประมาณ 15%
และผสมสารเพิ่มคุณภาพ
อีกประมาณ 20%
(ส่วนนี้เป็นความลับทางการค้า)

คุณสมบัติจำเพาะต่างๆ

หลักๆเราดูที่ค่า Viscosity Index (VI)
คือ ดัชนีความข้นใส บอกถึง
ความคงสภาพ
ความข้นใสที่อุณหภูมิต่างๆ

ซึ่งโดยตามธรรมชาติแล้ว
อุณหภูมิต่ำ↓ จะข้น↑
อุณหภูมิสูง↑ จะใส↓

ดังนั้นแล้ว น้ำมันที่มีค่า VI สูง 
จะไม่ข้นเกินไปที่อุณหภูมิต่ำๆ
และไม่ใสเกินไปที่อุณหภูมิสูง
น้ำมันสามารถคงสภาพการไหลได้ดี
จึงให้การทำงานได้ดีในทุกช่วงอุณหภูมิ

ดังนั้นค่า VI ที่ 154 จึงถือว่าอยู่ใน
เกณฑ์ที่สูงใช้ได้เลยครับ


จากการใช้งาน
Challenger Synthetic 4T 10W-40
จาก PTT Lubricants
ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าพึงพอใจ

นอกจากได้อัตราเร่งที่ดีขึ้นแล้ว
ยังช่วยให้บิดได้สนุกกว่าเดิม
ปกป้องชุดเกียร์ คลัตซ์
และเครื่องยนต์แม้รอบจัด ความร้อนสูงได้ดี
พร้อมการเข้าเกียร์ที่ง่าย และนุ่มนวล

คุณสมบัติต่างๆที่ให้มา
ก็เรียกว่าคุ้มเกินราคาค่าตัว
นอกจากนี้ยังเป็นยี่ห้อ
ที่สามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาด

จะสั่งออนไลน์ หรือ หาซื้อได้ตาม
ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศก็สะดวก
เรียกว่า เป็นน้ำมันเครื่องแบรนด์ไทย
ที่อยากให้มาลองใช้กันครับ!


ความคิดเห็น