[Mini Review] Yamaha Grand Filano Hybrid


วันนี้ทาง Freeman Rider ได้มีโอกาสมาร่วมขับขี่ทดสอบเจ้า 
Yamaha Grand Filano Hybrid กันสั้นๆที่เขาใหญ่
ถือว่าเป็น รถจักรยานยนต์ อีกรุ่นที่ถูกปรับเปลี่ยนโฉมและเพิ่มเติมระบบไฮบริดเข้ามา
เรามาดูกันว่า มีอะไรปรับเปลี่ยนพัฒนาไปจากตัวเดิมกันบ้าง


สำหรับเจ้า Yamaha Grand Filano Hybrid เปิดตัวมาด้วยกัน 2 รุ่น
ตัว Standard ราคา 55,500 บาท มีด้วยกัน 5 สี คือ เขียว, แดง, ขาว, เหลือง และดำ
ตัว ABS ราคา 62,000 บาท มีด้วยกัน 2 สี  คือ สีเทาและน้ำเงิน



เริ่มที่ ไฟหน้า มีการปรับเปลี่ยนมาเป็น Full LED ดูพรีเมี่ยมหรูหราขึ้น


ในส่วนของไฟเลี้ยวมีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูเล็กลงและมนจากของเดิม
หากแต่ไฟเลี้ยวยังคงเป็นแบบหลอด Halogen อยู่
พร้อมกับ Logo Grand Filano ที่ปรับเป็นเพลทแบบโครเมี่ยม ดูหรูหราขึ้นจากเดิม


เพิ่มเติม Logo Bule Core บนแผงคอด้านซ้ายมือ


แฟริ่งด้านหน้า มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มแถบโครเมี่ยมด้านนอก ดูเรียบหรูขึ้น


แผงหน้าปัดและเรือนไมล์หน้าจอสีแบบ TFT สู้แสงได้ดี
มีปุ่มอยู่ด้านซ้าย กดเพื่อแสดงโหมดต่างๆ


หน้าจอ TFT ซ้ายมือจะมีแถบเกจน้ำมัน และ เกจ Eco Guide แสดงให้เห็นการประหยัดน้ำมัน
ยิ่งเข็มชี้ขึ้นสูง ก็ยิ่งประหยัดขึ้น นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาแสดงเวลา
TRIP, อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน, ODO Meter , AVE, BATT 
และสุดท้าย แจ้งเตือนการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า
เมื่อเปิดคันเร่งจะมีแสงขาววาบขึ้นมาตรงบริเวณโลโก้


แผงควบคุมด้านซ้ายมือ เปิด/ปิดไฟสูง ไฟเลี้ยว และแตร


ด้านขวามือ เพิ่มเติมปุ่ม เปิด/ปิด ระบบ Stop & Start System 
กล่าวคือ เมื่อเราจอดรถเกิดกว่า 5 วินาที ระบบจะทำการดับเครื่องอัตโนมัติ
และทำงานต่อเมื่อเปิดคันเร่ง ช่วยในเรื่องประหยัดน้ำมันเวลาติดไฟแดงนานๆ
แต่ถ้าใครไม่ชอบก็สามารถปิดได้ในส่วนนี้


มีช่องชาจน์ไฟ 12v ช่องวางของ ปุ่มเปิดฝาน้ำมันและใต้เบาะ ที่แขวงของ
ดูสะดวกสบายมากขึ้น และ ถ้าเราจอดโดยลืมบิดกุญแจ
จะมีเสียงแจ้งเตือนความปลอดภัยในตัวอีกด้วย


 ใต้เบาะ ความจุ 27 ลิตร ใส่หมวกครึ่งใบได้ 2 ใบ พร้อมไฟส่องสว่างใต้เบาะ


ไฟท้าย ปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้สูงขึ้นจากเดิม Full Led ไฟเลี้ยว Halogen 


บอดี้เรียบเนียน ไร้น็อตบริเวณรอยต่อ


ชุดเครื่องยนต์ได้มีการยกระบบไดสตาร์ทออกไป และใช้ Motor Generator มอเตอร์ไฟฟ้า
เพิ่มเข้ามาแทน ทำให้เครื่องมีขนาดเล็กลงและน้ำหนักที่เบาลงอีกด้วย
นอกจากนี้เวลาสตาร์ทเครื่องเสียงจะเงียบเนียน (ไม่ต้องกลัวเสียงดังเวลาหนีเมียไปเที่ยวละ)


ยางติดรถ Maxxis เดิมๆจากโรงงาน ไม่ต่างจากตัวเดิม


ในส่วนท่านั่งขับขี่ มิติรถไม่ได้ต่างจากเดิม

ขอบคุณพี่สกนธ์ Great Biker ที่ฝืนใจมาเป็นแบบด้วยฮะ
คนซ้อนท้ายก็ยังนั่งได้สบายๆ


ระบบไฮบริดทำงานอย่างไร
ระบบไฮบริด จะทำงานก็เมื่อเราจอดสนิทและออกตัวตอนเปิดคันเร่งแบบสุด
ทำให้อัตราการเร่งออกตัวเพิ่มขึ้น 7% และทำงานในช่วง 3 วินาทีแรก ไม่เกิน 4,000 รอบ
ถือว่าทำได้ดีขึ้นกว่าตัวเดิม แต่ก็ไม่ได้มากขึ้น ถึงขนาดรู้สึกว่าเป็นจุดโดดเด่นอะไรขนาดนั้น


ในส่วนของการขับขี่
ฟีลลิ่งการขับเข้าโค้ง ความคล่องตัวทำได้ดีแทบไม่ต่างจากตัวเดิมเท่าไหร่นัก
มีที่แตกต่างกันบ้างคือ ในเรื่องของความเงียบและการสั่นสะเทือนที่น้อยลง
ออกตัวได้นุ่มนวลขึ้น ช่วงล่างได้มีการปรับแต่ง เซตค่าน้ำมันโช็คใหม่
ทำให้ช่วงล่างมีความนุ่มนวล กระชับขึ้น


สรุปสั้นๆสำหรับเจ้า Yamaha Grand Filano Hybrid
ถ้าเทียบดูภายนอกแบบผ่านๆ อาจดูไม่แตกต่างจากตัวเก่าเท่าไหร่นัก
แต่หากมองแบบเจาะลึกลงไป สิ่งที่ได้มาใหม่
คือในเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากขึ้น
ระบบไฟหน้า/ท้าย Full LED 
ระบบ Stop&Start System 
ระบบไฮบริด ที่ดูทันสมัยยิ่งขึ้น 
บอดี้ที่ดูเรียบเนียนไร้รอยต่อ
ดูรวมๆแล้ว ก็ถือว่า พรีเมี่ยมขึ้นมาละ


ในส่วนของระบบไฮบริด
แน่นอนว่าจะให้ทำงานเหมือนกับรถยนต์คงเป็นไปไม่ได้
เนื่องด้วยขนาดและน้ำหนักของมอเตอร์ที่ดูยากจะเอามาไว้ในมอเตอร์ไซค์
จึงออกมาเป็นไฮบริดแบบผสมผสาน เพิ่มกำลังในช่วงการเร่งออกตัวเท่านั้น
โดยจะทำงานในช่วง 3 วินาทีแรก ไม่เกิน 4,000 รอบ จึงตัดการทำงานลง
และปรับมาใช้เครื่องยนต์เหมือนเดิม

 แนะนำการทำงานของเครื่องยนต์บลูคอร์และระบบไฮบริด
ของยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด

แบตเตอรี่
มีการปรับขนาดความจุใหม่ จาก 3.5A เป็น 5A และในรุ่น ABS เป็น 6A
กับราคาแบตลูกเดิมอยู่ที่ 500 กว่าบาท เพิ่มป็น 900 กว่าบาท
แลกกับเทคโนยีที่เพิ่มเติมขึ้นมา ก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ


ถามว่าช่วยในการประหยัดมากขึ้นขนาดไหน? 
จากการทดลอง เรายังคงบอกอะไรไม่ได้มาก เพราะขับกันในระยะทางสั้นๆ
เป็นขบวนด้วยความเร็วไม่เกิน 70-80 km/hr และไม่ได้วิ่งยาวมาก

อันนี้คงต้องอยู่กับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์
ถ้าเราวิ่งในช่วงจราจรแออัด ระบบไฮบริดก็ช่วยในจังหวะการออกตัวได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีระบบ Stop & Start System ที่เข้ามาช่วยประหยัดเวลาต้องจอดติดไฟแดง
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ก็มีผลเช่นกัน แต่โดยรวมก็ถือว่าช่วยประหยัดได้มากขึ้นเล็กน้อย


ก็ถือว่าเป็นการรีวิวเบื้องต้น สำหรับเทคโนโลยี Hybrid ที่เพิ่มเข้ามา
ในแวดวงการมอเตอร์ไซค์ ถือได้ว่าเป็นช่วงที่กำลังค่อยๆพัฒนากันไป
 ถ้ามีข่าวสารอะไรใหม่ๆเพิ่มเติม จะมารีวิวกันให้ฟังกันอีกทีฮะ^^


Follow Instagram : https://goo.gl/ao3bN0
Follow Google+ : https://goo.gl/ZM4LH7
Follow Fanpage : https://goo.gl/4NRrZO
Subscribe Youtube : https://goo.gl/3mqCcp

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น