วันนี้ทาง Freeman Rider ได้มีโอกาสมางานเปิดตัว New Honda PCX Hybrid
รถจักรยานยนต์ Hybrid รุ่นแรกของโลกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมคุณภาพสูง
ซึ่งได้มีโอกาสทดลองขับขี่สั้นๆในสนามทดสอบ ศูนย์ฝึกอบรมขับขี่ปลอดภัยรามคำแหง
จะเป็นยังไงบ้าง เดี๋ยวจะมาเล่าเบาๆให้ฟังกัน
จากรูปลักษณ์ภายนอก ดูสวยงามโฉบเฉี่ยวลงตัว
มาพร้อมสีใหม่ Hybrid Blue ที่มีเฉพาะในตัว PCX Hybrid นี้เท่านั้น!
บริเวณไฟหน้า/ไฟเลี้ยว LED เสริมดีไซน์ด้วยกรอบไฟสีฟ้า เพื่อบ่งบอกถึงความเป็น Hybrid
ไฟท้ายแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว มาพร้อม Smoke Lens เสริมความเท่ได้อย่างเหนือระดับ
แถบโลโก้ Hybrid ตัวนูน แบบเดียวกับรถยนต์ฮอนด้าไฮบริดที่ใช้กันทั่วโลก
มาพร้อมหน้าจอ Digital พร้อมจอแสดงผลโหมดต่างๆ เพิ่มเติมในส่วนของ
ไฟแสดง Assist Level ช่องแสดงระดับการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าในขณะเร่งความเร็ว
และ ช่องแสดงระดับพลังงานแบตเตอรี่ลิเทียนไอออน (Li-ion Battery Indicator)
พร้อมสัญลักษณ์เตือนการทำงานของแบตเตอรี่เมื่อมีความผิดปกติ
ในส่วนประกับแฮนด์ซ้ายขวายังคงเดิม
มีเพิ่มเติมคือชุดสวิตช์ ด้านหน้าประกับซ้าย ที่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่
- Drive Mode (D) โหมดขับขี่ปกติ
- Sport Mode (S) โหมดขับขี่แบบสปอร์ต
ที่ช่วยเพิ่มกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการทำงานให้เครื่องยนต์
ตอบสนองการขับขี่ได้แรงเร้าใจมากยิ่งขึ้นกว่าปกติเมื่อมีการเร่งความเร็ว
และ Blank Mode (-) โหมดปิดการทำงานระบบ Idling Stop
ช่องเก็บของบริเวณคอนโซลด้านซ้ายขนาดใหญ่ ใส่โทรศัพท์จอ 5.5-6 นิ้วได้สบายๆ
มาพร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟสำรอง Power Outlet
ในส่วนของใต้เบาะ U-Box สามารถใส่หมวกกันน็อคเต็มใบได้ 1 ใบ
มีปรับขนาดเล็กลงจากเดิม 5.5 ลิตร เหลือ 23.3 ลิตร
เนื่องจากมี แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (LI-Ion Battery) ติดตั้งเพิ่มมา
อาจทำให้เสียพื้นที่ในจุดนี้ไปบ้าง แต่ก็แลกมาด้วยอัตราเร่งที่ดีกว่าเดิม
สำหรับเจ้า แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์
ถูกออกแบบตัวบอดี้คุณภาพสูงป้องกันการกระแทก และป้องกันน้ำได้เป็นอย่างดี
โดยจะมีการชาร์จไฟกลับทุกครั้งที่มีการผ่อนคันเร่ง และขณะรอบเดินเบา
ทำให้มีประสิทธิภาพพร้อมส่งกำลังไฟได้ตลอดเวลา
แบตเตอรี่มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา และมีอายุการใช้งานยาวนาน 6 – 8 ปี
ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า (Motor Assist) คือ มอเตอร์ไฟฟ้าทรงพลัง มีหน้าที่เสริมการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ eSP 150 ซีซี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้แรงทันใจทุกครั้งที่มีการเร่งความเร็วให้ได้ดั่งใจ
กล่องควบคุมอัจฉริยะ PDU (Power Deliver Unit) กล่องควบคุมการทำงานระบบไฮบริด
มีหน้าที่สั่งการไปยังแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ให้จ่ายไฟไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า
ทุกครั้งที่มีการเร่งความเร็วให้ได้ดั่งใจ เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการทำงานให้กับเครื่องยนต์
ในการเพิ่มอัตราเร่งตอบสนองความเร้าใจได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ในส่วนการทำงานของระบบไฮบริด ทุกครั้งที่ผู้ขับขี่เร่งความเร็ว
กล่อง PDU จะสั่งการไปที่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนให้จ่ายไฟไปให้มอเตอร์ไฟฟ้า
ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ เพื่อผลลัพธ์แห่งความแรงที่สัมผัสได้ทุกครั้งที่เร่งความเร็ว
เพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยไปกับขุมพลังไฮบริดที่ได้มาตรฐานระดับโลก
เทคโนโลยีเครื่องยนต์ทรงประสิทธิภาพ eSP (Enhanced Smart Power) 150 ซีซี
ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด PGM-FI ระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ Built-in Liquid Cooled
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั้งระบบ ให้การขับเคลื่อนเต็มพลัง ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า
เพื่อความเร้าใจในการขับขี่อย่างแท้จริง
ฮอนด้า สมาร์ท คีย์ รีโมทอัจฉริยะเหนือระดับด้วยระบบสั่งการครบ 3 ฟังก์ชั่น ได้แก่
• ฟังก์ชั่นระบุตำแหน่งที่จะแสดงตำแหน่งรถด้วยไฟ Welcome Light
และเสียงสัญญาณเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในค้นหารถ
• ฟังก์ชั่นสัญญาณกันขโมย ที่จะส่งสัญญาณเตือนทันที เมื่อรถมีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน
• ฟังก์ชั่นเปิด-ปิดสัญญาณรีโมท ที่จะสั่งการหรือล็อกการเชื่อมต่อสัญญาณรีโมทกับสมาร์ทคอนโทรลเลอร์ โดยชุดฮอนด้าสมาร์ทคอนโทรลเลอร์
คือ ชุดควบคุมการทำงานระบบสตาร์ท ใช้งานง่ายสะดวกสบาย
เพียงบิดสวิตช์ พร้อมความหรูหราด้วย Blue Ring LED
ระบบ Combi Brake ช่วยกระจายแรงเบรกจากล้อหลังไปยังล้อหน้า ให้ผู้ขับขี่มั่นใจ ล้อไม่ล็อก
มาพร้อมกับล้ออัลลอยใหม่ ขนาด 14 นิ้ว ยกระดับความพรีเมียมครั้งแรกในรถจักรยานยนต์
ด้วยยาง Michelin หน้ายางขนาดใหญ่ขึ้น ยึดเกาะถนนได้มั่นใจ
นอกจากนี้ ก็ยังมีระบบ Idling Stop ที่ช่วยหยุดการทำงานของเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติ
ในเวลาเพียง 0.5 วินาทีเมื่อหยุดรถ หลังจากขับมาด้วยความเร็วมากกว่า 6 กม.ต่อชม.
ในส่วนของการขับขี่ วันนี้ได้ทดลองขับในสนามช่วงสั้นๆ 2 รอบด้วยกัน
โดยรอบแรก เป็นการทดลองขับขี่ใน Drive Mode (D)
สัมผัสแรกที่รู้สึกได้ คือ อัตราเร่งที่ดีกว่า PCX ตัวเดิมอย่างเห็นได้ชัด
ทุกครั้งที่เปิดคันเร่งออกไป ไม่มีอาการหน่วงรอบให้เห็น
บิดแล้วตอบสนองได้ทันที ถือว่าช่วยได้มากเวลาเร่งแซง
ส่วนการขับขี่ใน Sport Mode (S)
โหมดนี้ จะช่วยเพิ่มกำลังให้มอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการทำงานให้เครื่องยนต์
ตอบสนองการขับขี่ได้แรงมากยิ่งขึ้น มีอัตราเร่งที่จัดจ้านมากขึ้น
เท่าที่สัมผัสมา รู้สึกได้ว่าแรงขึ้นเล็กน้อย ยังอยู่ในเกณฑ์ที่คุมอยู่
ในส่วนต่างๆ การเข้าโค้ง บาลานซ์ ทำได้ไม่แตกต่างจาก PCX ตัวเก่า
เนื่องด้วยพื้นฐานชุดอุปกรณ์ ยาง โช๊ค ยังคงใช้แบบเดิมอยู่
จะมีต่างกันที่น้ำหนักตัวของ PCX Hybrid ที่มากขึ้นกว่าตัวเก่า 5 kg.
แต่เท่าที่ทดสอบยังไม่ถือเป็นปัจจัยที่ให้เกิดความต่างกัน
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 99,900 บาท
ก็ถือว่าเป็นการรีวิวเบื้องต้น เนื่องด้วยเป็นการทดสอบระยะสั้นๆในสนาม
อาจยังบอกอะไรไม่ได้มาก นอกจากอัตราเร่งที่ดีขึ้นกว่าตัวเดิมจริงๆ
ไว้ถ้ามีโอกาสได้ทดสอบยาวๆจะมารีวิวให้ทราบกันอีกทีฮะ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น