YAMAHA QBIX กับทริป Chick & Chill

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในบ่ายวันหนึ่ง เมื่อรุ่นพี่คนนึงไหว้วานให้ไปงานแทน
ฟรีแมนได้ยินเช่นนั้น ก็ใช้เวลาตัดสินใจอยู่ 5...4...3...2...1...ไปครับ (ใจง่ายจัง)

หลังตบปากรับคำไป...หันกลับไปดูงานที่กองบนโต๊ะ...เช็ดดดด...แล้วจะทำทันไหม?
แต่เอาน่ะ ขลุกอยู่หน้าจอทั้งวัน ก็ไม่ได้ทำให้ได้ไอเดียใหม่ๆ หัดออกไปใช้ชีวิตซะบ้าง
(หรือจริงๆก็แค่ข้ออ้างในการหาเรีื่องเที่ยว) จึงเกิดทริปนี้ขึ้น...


ทริปนี้เราเดินทางในกิจกรรมนาม Yamaha QBIX ชิค แอนด์ ชิล By Motocross Magazine
โดยเริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่หัวหิน ถิ่นมีหอย~ ซึ่งเราจะมาค่อยๆฝอยเรื่องราวกันไปทีละนิด

ตัวซ้าย รุ่น ABS / ตัวกลาง รุ่น Standard / ตัวขวา รุ่น S

สำหรับ Yamaha QBIX ก็จะมีให้เลือก 3 รุ่นด้วยกัน รุ่น Standard , รุ่น S และ รุ่น ABS   
รุ่น S ขนาดยางจะใหญ่กว่าตัวธรรมดา นอกนั้นเหมือนกันหมดกับตัวธรรมดา
ส่วนตัว Top มีระบบ ABS ยางหน้าหลังเท่ากับตัวรุ่น S และมีเพิ่มกุญแจอัจฉริยะให้


YAMAHA QBIX มาในเครื่องยนต์ Blue core ขนาด 125CC 
สามารถมุดซอกแซกในเมืองไปได้แบบสบายๆ


 ท่านั่งขับขี่สบายๆ ไฟหน้าไฟท้ายและไฟเบรคมาในระบบ LED


เรือนไมล์ Digital ดีไซค์ก็สวยทันสมัย ดูล้ำยุค มีฟังก์ชั่นมาให้หลายอย่าง
ทั้งนาฬิกาบอกเวลา ระยะทริป อัตราการใช้น้ำมัน วัดแบตเตอรี่ Stop & Start System 
ถ้าเป็นตัว Top ก็จะมีไฟเตือนระบบ ABS ให้ด้วย


ใต้เบาะสามารถเก็บหมวกกันน็อคได้ 2 ใบ (แบบเปิดคาง และ ครึ่งใบ / เต็มใบใส่ไม่ได้นะ)
พร้อมไฟฉายส่องสว่างใต้เบาะ แถมระบบอุ่นอาหารในตัว (ฮา)


ช่องเปิดถังน้ำมันอยู่บริเวณที่วางเท้าตรงกลาง ความจุ 4.2 ลิตร


ด้านหน้าเป็น Disk Brake หลังเป็น Drum Brake (เบรค ABS จะมีเฉพาะตัว Top)



 กุญแจบิดได้ 3 ระดับ เปิดฝาถังน้ำมัน ปลดล็อคใต้เบาะ
ที่น่าสนใจคืิิอ มีที่ชาจน์แบตโทรศัพท์ให้ด้วย
ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับรุ่นที่หน้าจอ 4-5 นิ้ว  ถ้าจอ 5.5 นิ้วขึ้นไปก็ใส่ได้นะ
แต่หัวสายชาจน์มันจะชนขอบ ทำให้เวลาปิดเก็บสายยากนิดนึง 
ที่น่ากังวลคือเรื่องลืมโทรศัพท์ เพราะช่องเป็นแค่สลักไว้ล็อคเท่านั้น ไม่มีมีกุญแจล็อค


วันแรก เราออกเดินทางจาก YRA ในเวลา 7 โมงเช้าโดยประมาณ
(ฟรีแมนต้องตื่นตี 4 เพื่อไปถึงจุดนัดปกติเวลานี้บางทียังไม่ได้นอนเลย)
โดยจะมีผู้ร่วมเดินทาง 12 คัน รวมสื่อและบุคคลทั่วไป
แอบดีใจเล็กๆมารอบนี้มีคนรู้จักเพจเราบ้าง ปกติถามไปไม่ค่อยมีใครรู้จัก 555


การขับขี่ในตัวเมืองรถติดๆ ด้วยน้ำหนักรถที่เบา ทำให้สามารถมุดซอกแซกได้ดี
อัตราเร่งช่วงต้นเร่งได้ทันใจ จะมีอืดๆบ้างในช่วงกลาง-ปลาย
ส่วนระบบเบรค ถึงตัว Standard จะไม่มี ABS แต่เท่าที่ลองขับเจอเบรคกระทันหันก็ยังเอาอยู่สบายๆเลย


จุดหมายแรกเราจะข้ามแพไปยังเส้นพระรามสอง
จุดแวะพักแรก คือ Porto Chino แวะพักดื่มกาแฟกันที่ StarBuck ก่อน 



ระหว่างทางตามจุดปั๊มน้ำมัน ก็จะมีพักพร้อมทำกิจกรรมเล่นเกมส์สนุกๆเล็กน้อย 
โดยจะแบ่งกลุ่มเป็นสีชมพู เขียว และส้ม พร้อมมีตัวแถม 1 คน
ที่อาจคอยบวกหรือลบคะแนนให้ทีมล่มจมก็เป็นได้



หลังจากพักและทำกิจกรรมแล้วเราก็เดินทางกันต่อ อีกเส้นทางหนึ่งที่เหล่าไบค์เกอร์นิยมใช้
ก็คงไม่พ้นเส้น "คลองโคลน"


มีโอกาสได้สัมผัสทางฝุ่นบางระยะ ระบบโช๊คยังมีแข็งๆอยู่ 
ควรหลีกเลี่ยงหลุมใหญ่ๆ ไม่งั้นก็อาจก็มีจุก



ถนนเส้นนี้ลมค่อนข้างแรง ทำให้เกิดอาการต้านลม จึงทำความเร็วสูงไม่ได้เท่าไหร่
เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 80-90 กม./ชม. 


หลังจากนั้นเราแวะทานข้าวกันที่ บ้านพักรับรอง 17 หาดเจ้าสำราญ กองบัญชาการกองทัพไทย
ขับผ่านแถวนี้อยู่หลายครั้ง พึ่งรู้ว่ามีร้านบรรยากาศดีๆอยู่แถวนี้ด้วย อาหารอร่อย วิวสวยมาก





หลังทานข้าวเสร็จเราก็มีทำกิจกรรมกันต่อ ในรอบนี้เราจะแข่งกันทำเวลา
โดยการให้แต่ละทีมส่งตัวแทนออกมา และผลัดกันขับ ซิกแซกตามกรวย




การเข้าโค้ง พลิกโยกรถได้ง่าย ไม่มีอาการเว้อ 


หากแต่ว่า...ผู้ชนะไม่ใช่คนที่ทำเวลาได้เร็วที่สุด หากแต่เป็นคนที่ทำเวลาลงท้ายด้วยเลขคู่
หลังจากคะแนนติดลบมานาน ก็มีเพียงทีมสีชมพูที่ทำได้ จากที่คะแนนทิ้งท้ายก็ไล่ตีตื้นขึ้นมาบ้าง


บรรยากาศก็เป็นไปแบบสบายๆ ชิกๆชิลๆ กันไป ทริปนี้ถือว่าโชคดี สภาพอากาศเป็นใจ
 เมฆหนา ไม่ค่อยเจอแดดเจอฝน เลยไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่


ออกเดินทางต่อ จุดหมายต่อไป Santorini





ท้องฟ้ามันครึ้ม มันครึ้มออกอย่างนี้ มันเหงาทุกที ที่ได้มอง...

ที่นี่บรรยากาศเปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน ดูไม่คึกคักเหมือนก่อน คนค่อนข้างโหรงเหรง
เราใช้เวลาเดินพักผ่อนส่องสาวๆที่นี่สักพัก ดูฝนฟ้าแล้ว ขับเข้าที่พักเลยดีกว่า


วันนี้เรามาพักกันที่ ราชมงคลชมคลื่นหัวหิน หลังจากซิ่งมานาน ก็ถือโอกาสเล่นน้ำซะหน่อย


บรรยากาศดี๊ดี


หาดที่นี่ขาวมากฮะ 




ภายในห้องพัก
ห้องพักถือว่าโอเคเลยทีเดียว มีระเบียง มีอ่างอาบน้ำ แอร์ ตู้เย็นครบ ขอนอนสลบแป๊บนึง


จนถึงเวลาอาหารเย็น เราก็ขับมาไม่ไกลจากที่พัก แวะกันที่ร้าน ไฮ้เปียง
แน่นอนว่าจัดเต็มกันอีกเช่นเคย ณ ตอนนี้คืออิ่มมากๆ 
แล้วก็จะมีปาร์ตี้ Solf Drink อีกเล็กๆน้อยๆ No Alcohol นะฮะ 


จบทริปนี้ เราใช้ระยะเดินทาง 500 กม.พอดิบพอดี
ถ้ามีเกินกว่านี้ ต้องมีบางคนแอบออกไปนอกลู่นอกทางแน่นอน




โดยรวมถือว่าเป็นรถที่ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว 

ช่วงแฮนด์กว้างตามสไตล์รถ Scooter ตัวเบาะรับได้เต็มก้น นั่งสบายได้พอสมควร  

ช่วงการวางเท้า ตัวฟรีแมนสูง 175 และขาค่อนข้างยาว ต้องเขยิบก้นไปข้างหลังนิดๆ
ถึงจะรู้สึกนั่งแล้วพอดี

อัตราการเร่งช่วงต้นพุ่งตัวดี  จะมีอืดๆบ้างในช่วงกลาง-ปลาย ประมาณช่วง 50-60 กม.
แต่ก็ถือว่าเพียงพอแล้วกับการใช้งานในตัวเมือง

ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ ในทริปนี้เราเดินทางเป็นขบวน อาจไม่ถึงกับมีโอกาสได้บิดแช่นานๆ
แต่เท่าที่ทำได้อยู่ช่วงประมาณ 105-108 กม./ชม. เลยทีเดียว

ส่วนระบบเบรค ถึงตัว Standard จะไม่มี ABS แต่เท่าที่ลองขับด้วยความเร็วสูงๆ
เวลาต้องเบรคกระทันหัน ก็ยังถือว่าเอาอยู่นะ

การเลี้ยว เข้าโค้ง ด้วยน้ำหนักและขนาดรถที่ไม่มาก ทำให้สามารถพลิกแพลงได้ง่ายและสนุก

จะติดปัญหาบ้างในเรื่องของรูปทรงด้านหน้าที่กว้าง จึงทำให้เกิดการต้านลม
เวลาขี่ด้วยความเร็วสูง ทำให้บิดไม่ค่อยขึ้น
แต่รถประเภทนี้ เค้าไว้ขี่ชิลๆในเมืองมากกว่า คงไม่ได้จำเป็นต้องบิดขนาดนั้นสักเท่าไหร่

ฟังค์ชั่นต่างๆให้มาค่อนข้างครบครัน ที่ชาจน์แบต ไฟใต้เบาะ 
ถือว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน

ซึ่งระหว่างจอดแวะพักเติมน้ำมัน ค่อนข้างมีคนให้ความสนใจกันรถคันนี้เยอะ
มีเดินมาสอบถามตลอด รถรุ่นอะไร วางขายหรือยัง ราคาเท่าไหร่
ด้วยรูปทรงที่ ดีไซน์ล้ำ ทันสมัย ดูแปลกตา เอาเป็นว่า ถ้าขับไปไหน มีชายตามองแน่นอน


ขอขอบคุณ Pantip Review มากๆ จบรีวิวไว้เท่านี้ครับ
โอกาสหน้าจะมีรถอะไรมาให้ลองขี่อีก โปรดติดตามตอนต่อไป

ความคิดเห็น