เริ่มต้นทริปแรกของปี หลังจากขี่ทางดำมาตลอด ครั้งนี้ได้มีโอกาสประเดิมทางดินบ้าง
โดยงานนี้ Freeman ได้รับเชิญจากทีม Just Ride it ว่ามีทริปขี่รถเล่นเบาๆ
ไอ้เราก็ใจง่าย ใครชวนไปไหนก็ไปหมด หารู้ไม่ว่าชะตากรรมข้างหน้าสะเทือนใจแค่ไหน T^T
วันนี้เลยจะมาเหลาประสบการณ์เปิดซิงครั้งแรกกับการขับขี่เข้าป่า (ไม่ใช่ป่าเดียวกันน๊าาา)
ซึ่งต้องขอออกตัวก่อนว่าตัว Freeman เป็นมิือใหม่มากๆสำหรับทางสายนี้ มาดูกันว่า จะโหด มันส์ ฮา ขนาดไหน!
วันแรกเดินทางสู่เชียงใหม่ โดยสายการบิน Thai Smile Airline
เริ่มต้นก็เกือบจะอดไปซะแล้ว เพราะเข้าใจว่าขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง แต่โชคดีที่ไหวตัวทัน
โดยทริปนี้กินระยะเวลาทริปรวม 4 วัน
ขอข้ามขั้นไปโฟกัสเรื่องการขับขี่เลยเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลานะฮะ
เริ่มต้นทริปเราก็เดินทางมาที่ศูนย์ Honda Safety Riding Park ก่อน
ซึ่งทางทีมงานได้จำลองพื้นที่ให้ใกล้เคียงกับทางที่เราจะไปลุยกันในวันนี้
ขอบคุณภาพจากทีมงาน 35 Line ด้วยครับ |
โดยช่วงเช้าเราจะฝึกพื้นฐานการขับขี่กันในสนาม
เพื่อให้คุ้นชินกับรถและเรียนรู้ทักษะต่างๆก่อนจะลงสนามจริง! ซึ่งจะมีทางหลากหลายให้ได้ทดลองกัน ทั้งดินฝุ่น ทางหิน น้ำ ทราย ซึ่งทางระดับนี้ สำหรับมือใหม่แบบ Freeman ก็ล้มไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
(ครั้งแล้วกับครั้งเล่า...)
ท่ายืน/ท่านั่ง |
ซึ่งสำหรับตัวรถ CRF 250 Rally ตัวนี้ แว๊บแรกรู้สึกได้เลยว่าเป็นรถที่สูงเอาเรื่องเลยทีเดียว
แต่พอลองได้นั่งดูก็พบว่ามีการยุบตัวลง จนสามารถคร่อมได้โดยที่สัมผัสพื้นได้เกือบๆเต็มเท้า
(ตัว Freeman สูงประมาณ 175 ซม. บวกกับใส่บูทวิบากเสริมขึ้นอีกหน่อย)
ทางร่องดินขึ้นเนินแบบนี้ เทคนิคการขับขี่คือ ยืนโน้มตัวไปข้างหน้าให้ลำตัวตั้งฉากกับพื้น |
ส่วนทางน้ำก็ใช้หลักการเดียวกัน คอยประคองปล่อยไหลไปตามพื้นผิวของทาง |
เห็นหินๆแบบนี้ในสนาม ของจริงนี่โหดกว่านี้เยอะ ขอบอก |
ในเรื่องเทคนิติการขับขี่ ได้ อ.อาร์ท God Rider เป็นผู้สอน
ขออนุญาตลงเป็นคลิปไว้ อาจมีบางเทคนิคขาดตกบกพร่อง ยังไงขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยครับ
เมื่อทดลองขับขี่กันได้สักพัก ก็แวะไปเติมพลังกันที่ร้าน โอ้กะจู๋
(ที่มาชื่อร้านนี้ เจ้าของคือคุณอู๋กับโจ้ ผวนดูก็ร้องอ๋อเลยทีเดียว)
ทางในช่วงนี้จะมีร่องหิน ดินทราย สลับกันไป มีบางจุดเป็นร่องดินโคลนเล็กๆ ก็ยังถือว่าไม่โหดเกินไป
จนมาถึงจุดพักแรกระหว่างทาง อยู่ระหว่างทางไปม่อนล่อง ใกล้ๆทางขึ้นม่อนแจ่ม
จุดนี้เราใช้เวลาพักอยู่พอสมควร เพราะ จะเริ่มเขยิบเข้า Stage 2 ซึ่งจะเริ่มโหดขึ้นอีกนิดนึงแล้ว
จุดนี้เราใช้เวลาพักอยู่พอสมควร เพราะ จะเริ่มเขยิบเข้า Stage 2 ซึ่งจะเริ่มโหดขึ้นอีกนิดนึงแล้ว
ตามทางเริ่มมีร่องดินให้เห็นเยอะขึ้น ถ้าเป็นหน้าฝนนี่บันเทิงแน่นอนนนนน
หลังจากขับมาได้สักพัก ก็มาถึงจุดพักที่สอง ณ ม่อนวิวงาม บรรยากาศสวยงามสมชื่อจริงๆ
ซึ่งจุดนี้ตัว Freeman เองได้ทำการเปลี่ยนรถไปทดลองขับตัว CRF250 L ดูบ้าง
เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างว่าเป็นอย่างไร
เปรียบเทียบตัว L กับ Rally |
เท่าที่สัมผัสได้คือเบาะของตัว CRF250Rally จะสูงกว่าเล็กน้อย
โช๊คยุบตัวได้ดี ให้สัมผัสได้นิ่มนวลและหนืดกว่าตัว L
ยังเฮฮาได้อยู่ |
หลังจากพักเต็มอิ่ม จากนี้เราก็จะวิ่งชิลไปยาวๆ แล้วก็จะเริ่มเข้าสู่ของจริง
ยอมรับเลยว่าจากจุดนี้ไปไม่มีโอกาสได้หยิบกล้องมาถ่ายสวยๆ เพราะ แค่เอาตัวให้รอดก็ลำบากแล้ว ใครอยากรู้ว่าโหดแค่ไหนชมคลิปได้เลย
โหดขนาดไหน จมไปครึ่งคัน |
ชุบทีมีใบ... |
หลังจากขับมาร่วมครึ่งวัน HP ก็ลดลงจนหลอดแดงแล้วแดงอีก
นาทีนี้อยากหลับแล้วกลับจุดเซฟไปเลย เมื่อรู้ว่าที่ขับมายังไม่ถึงครึ่งทาง
แต่ในเมื่อมาขนาดนี้แล้วกลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อไปก็ต้องไปให้ถึง...
เอ้า! ดีใจทำไม ยังไม่ถึงครึ่งทางเลย T^T |
หลังจากจุดนี้ไปเราได้แต่เร่งทำเวลา เพราะ เดี๋ยวฟ้าเริ่มมืด จะเดินทางกันลำบาก
มื้อนี้เรียกได้ว่ามีเท่าไรใส่ลงกระเพาะให้หมด แล้วมาสลบลงบนที่นอน
ถือว่าได้ทักษะและประสบการณ์มากมายจริงๆ
เริ่มวันที่สอง หลังจากผ่านดั้นเจี้ยนโหดมาแล้ว วันนี่้เราจะไปกันแบบชิลๆสบายๆ
โดยจุดหมายแรกของเราวันนี้คือ ขุนวาง ไปชมซากุระบานสวยๆกัน
หลังจากเดินชมโดยรอบพอประมาณ เราก็ไปต่อกันที่ดอยอินทนนท์
สรุปทริปนี้ ครั้งแรกกับการขี่ทางดินเข้าป่า เรียกได้ว่าเป็นทริปโหดๆทริปนึงในชีวิตเลย ล้มนับครั้งไม่ถ้วน แต่โชคดีที่ไม่มีบาดแผลอะไร ส่วนใหญ่ก็จะลื่นกับล้มแปะ ตามร่องดินซะมากกว่า
ได้เรียนรู้สกิลดีๆในการขับขี่มาอย่างมากมาย ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าครั้งนึงในชีวิตเลยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น